Good Job!!
'คืนความสุขให้พนักงาน เพื่องานที่มีประสิทธิภาพ'
“ออฟฟิศที่ดี” ไม่ได้มีองค์ประกอบตายตัว เพียงแต่ต้องมีสิ่งที่ควรมี นั่นก็คือ..
"สิ่งที่ทำให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการสร้างลักษณะทางกายภาพที่ดี
และการสร้างคุณภาพจิตใจที่ดีให้แก่พนักงาน เพราะที่ไหนทคนรู้สึกสบายทั้งกายและใจพวกเขาก็อยากอยู่ที่นั่นเอง"
วันนี้เราได้นำข้อสรุปของออฟฟิศที่ดีจากบริษัท Basecamp แห่งเมืองชิคาโกที่ Forbes ได้จัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบริษัทยอดเยี่ยมของประเทศอเมริกาในปี 2017 เรามาดูกันดีกว่าว่าบริษัทที่ประสบความสำเร็จนั้นมีแนวคิดในการบริหารอย่างไรบ้าง ?
1. ออฟฟิศที่ดี ย่อมต้องมี สวัสดิการที่ดี
- สวัสดิการที่ดี ในมุมของบริษัท Basecamp ไม่ใช่อาหารเย็นฟรี ห้องเล่นเกม หรือบาร์เครื่องดื่มและขนมในออฟฟิศ เพราะสิ่งเหล่านั้นจะยิ่งรั้งให้พนักงานกลับบ้านช้าลง หลายบริษัทมีนโยบายว่า “บริษัทคือครอบครัว” ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก เพราะนั่นทำให้พนักงานมีเวลาให้กับ ครอบครัวตัวเองจริงๆ น้อยลง พวกเขาเชื่อว่าการทำงานหนักไม่ได้สร้างผลงานที่ดีขึ้น พนักงานควรได้ทำงานในชั่วโมงงานปกติ หรืออาจน้อยกว่าปกติถ้าพวกเขามีศักยภาพมากพอ อีกทั้งควรมีสวัสดิการที่ให้พนักงานได้พักผ่อนและใช้เวลาอยู่กับครอบครัวเพื่อมีกำลังใจในการกลับมาทำงานต่อจริงๆ เช่น วันลาพักร้อนที่ที่บริษัท Basecamp ให้ถึง 3 สัปดาห์/ปี พร้อมเงินสนับสนุนค่าเดินทางอีก 5,000 USD (ประมาณ 170,000 บาท) และในทุกๆ 3 ปีพนักงานที่นี่จะได้หยุดยาวนับเดือน โดยยังคงได้รับเงินเดือนแบบเต็มๆ และยังมีบริการนวดผ่อนคลายในสปาสุดหรูเดือนละครั้ง สุดยอดไปเลย
2. ออฟฟิศแบบเปิดก็สงบได้ถ้ามีกฎระเบียบ
- ออฟฟิศแบบเปิดมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด แต่ข้อเสียคือทำให้สมาธิในการทำงานลดลงได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่แทรกเข้ามาหรือการเคลื่อนไหวไปมาของพนักงานคนอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้การทำงานสะดุดและช้าลง การแก้ไขของ Basecamp คือ การนำกฎของห้องสมุดมาใช้ นั้นคือ การพูดคุยกันเบาๆ นั่นเอง และมีอีกสิ่งหนึ่งที่พวกเขาปฏิบัติเพื่อให้การทำงานไหลลื่นมากขึ้นคือ การไม่จัดประชุมบ่อยเกินไป โดยเฉพาะการประชุมที่มีคนเข้าร่วมจำนวนมาก เพราะมันจะเป็นการประชุมที่ไม่มีวันจบสิ้น มากคนก็มากความนั่นเอง
3. ไม่ควรกดดันพนักงานด้วย Deadline
- จริงที่การทำงานควรมีกำหนดส่งเพื่อให้เกิดความระเบียบวินัยในการทำงาน แต่อย่าให้สิ่งนั้นกลายเป็นความกดดันและความเครียด เช่น การทวงถามงานทุกๆ ชั่วโมงหรือย่อยกว่านั้นทั้งๆ ที่พวกเขาก็กำลังทำให้คุณอยู่ หรือการมอบหมายงานงานอย่างกระชั้นชิดจนพนักงานรู้สึกกดดันว่าจะทำได้ทันหรือไม่ และถึงแม้ทำได้ทันเวลา แต่งานที่มีเวลาคิดไตร่ตรองและได้รับการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน กับงานที่มีเวลาน้อยต้องรีบทำ คุณภาพย่อมต่างกันแน่นอน
" วิธีการทำงานและสวัสดิการของ Basecamp อาจไม่สามารถใช้กับทุกบริษัทได้
แต่ก็สามารถพิจารณานำไปปรับใช้ให้เข้ากับบริษัทของตัวเองได้
อย่างน้อยก็เรื่องของเวลาการทำงานและสวัสดิการที่ควรให้พนักงาน
อาจไม่ถึงกับเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ค่อยๆ ลองปรับทีละนิดก็ดีไม่น้อย"