ในปัจจุบันหลายองค์กรเล็งเห็นถึงการดีไซน์ออฟฟิศกันมากขึ้น จึงเกิดออฟฟิศรูปแบบที่แปลกใหม่ มีการจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสมกับลักษณะการทำงาน เพิ่มพื้นที่ที่ช่วยให้พนักงานเกิดความคิดสร้างสรรค์ และที่สำคัญคือทำให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรมากขึ้น
จึงขอนำบริษัท เอ คอมเมิร์ซ จำกัด หนึ่งในธุรกิจสตาร์ทอัพของไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ให้ความสำคัญในการออกแบบออฟฟิศแนวใหม่ ที่มีโซนต่าง ๆ ให้พนักงานรู้สึกผ่อนคลาย สนุกสนาน และมีความตื่นตัวที่อยากจะมาทำงานในทุก ๆ วันมากขึ้นจะมีโซนอะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ..
ภาพจาก www.facebook.com/acommerce.asia/
‘ทำงานก็ได้ ผ่อนคลายก็ดี’
ลานโล่ง ๆ ปูด้วยพรมสีเขียวให้ความรู้สึกสดชื่นสบายตา พร้อมหมอนรองนั่งนุ่ม ๆ วางไว้ทั่วบริเวณ และที่ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ดูโดดเด่นมากคือ โคมไฟเพดานสุดเก๋สไตล์ลอฟท์ พนักงานสามารถใช้ทำงาน นั่ง-นอนเล่น ผ่อนคลายจากความเครียดด้วยการชมวิวเมืองผ่านหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ที่ทำให้ห้องรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ด้วย เนื่องจากแนวคิดที่อยากให้พนักงานสามารถทำงานจากมุมไหนภายในออฟฟิศก็ได้ พวกเขาจึงยังทำเบาะยาวริมกระจก และเคาน์เตอร์บาร์ริมกระจก เพื่อให้พนักงานสามารถนั่งทำงานหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ได้อย่างผ่อนคลาย
ภาพจาก www.facebook.com/acommerce.asia/
ที่ปูด้วยหญ้าเทียม มีโซฟาและ Bean bag ให้นั่งสบายๆ เพื่อการคุยงานอย่างผ่อนคลาย แน่นอนว่ามีเกมให้เล่นด้วย และมีห้องประชุมขนาดเล็ก Skype Room ไว้ใช้เจรจาธุรกิจข้ามประเทศ และ Study Room สำหรับให้พนักงานมีพื้นที่ส่วนตัว ในการคิดงานอย่างเงียบ ๆ เพียงลำพังบ้าง มีคำคมเกี่ยวกับการทำงานอย่างสร้างสรรค์ติดไว้ด้วย
ที่นี่มีระบบการเข้าใช้ห้องประชุมด้วยเครื่องมือบริหารการใช้ห้องประชุมแบบระบบคีย์จองห้องประชุมผ่านทางอินเทอร์เน็ต เพื่อให้พนักงานรู้ว่าห้องประชุมไหนว่างเวลาไหนบ้าง จะได้วางแผนการทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะถึงแม้จะมีห้องประชุมมากมาย แต่ความคิดที่ไม่หยุดนิ่งก็ทำให้การระดมความคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าการตกแต่งออฟฟิศโดยรวมของที่นี่จะมีสีโลโก้ 3 สีของโลโก้องค์กรแทรกอยู่ทุกที่ ซึ่งเป็นการทำให้พนักงานรู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรมากขึ้น ไม่เพียงเพื่อมาทำงานของตัวเองอย่างเดียว จึงทำให้งานที่ออกมาเป็นไปในทิศทางเดียวกับจุดประสงค์หลักที่องค์กรต้องการ และยังมีคำคมเก๋ๆ ตกแต่งตามผนังเพื่อเพิ่มพลังในการทำงาน
"...อีกทั้งยังมีสติกเกอร์ยูนิคอร์น ติดไว้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการไปให้ถึงเป้าหมายของบริษัท
นั่นก็คือ เป็น “Unicorn Startup” แห่งแรกของไทยให้ได้ (ธุรกิจ Startups ที่มีมูลค่าเกินกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่
งยังไม่มีแบรนด์ใดในไทยทำได้ในขณะนี้..."
.