Look before you leap! 5 วิธี เรียกสติในการทำงาน
Share this :

ความฟุ้งซ่าน ความเครียด ความเหนื่อยล้า เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในการทำงาน จนบางครั้งหรือบ่อยครั้งทำให้งานผิดพลาด ซึ่งยิ่งทวีความเครียดเข้าไปอีก

นั่นเพราะสติและสมาธิในการทำงานได้หลุดลอยออกไปแล้ว ลองมาตั้งสติและรีเฟรชตัวเองให้พร้อมทำงานมากขึ้นด้วยวิธีต่อไปนี้



1.กำหนดลมหายใจ 

การกำหนดลมหายใจเข้า-ออก จะช่วยทำให้คุณมีสมาธิมากขึ้น และดึงสติที่กำลังฟุ้งซ่านกลับ
มาได้ วิธีที่ง่ายที่สุด ในการกำหนดลมหายใจ คือหายใจเข้าช้าๆ ประมาณ 3 วินาที แล้วหายใจออกให้ช้ากว่า 2 เท่าของการหายใจเข้า สิ่งนี้จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง เป็นประโยชน์ในสถานการณ์ที่เครียดและวิตกกังวล มันช่วยให้จิตใจสงบลงและทำให้ผ่อนคลาย

 



2. กินอย่างมีสติ  

ถึงแม้ช่วงพักกลางวันจะต้องรีบเร่งแค่ไหน แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการใส่ใจกับอาหารที่เราบริโภค เพราะชนิดของอาหารที่คุณกิน วิธีที่คุณกิน และความรู้สึกหลังจากนั้น มีความเกี่ยวพันกันอย่างแน่นแฟ้น ก่อนเริ่มรับประทานอาหารให้หายใจเข้าลึกๆ 3 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้ปลดปล่อยความฟุ้งซ่านและเข้าสู่กระบวนการกินอย่างเต็มที่ 

.

จากนั้นนั่งด้วยท่าทางสบายๆ ที่สุดเคี้ยวอาหารอย่างถูกต้อง กินให้ช้าลงเพื่อลิ้มรสอาหารจริงๆ และหยุดกินเมื่ออิ่มแล้ว เมื่อใส่ใจกับการกินมากขึ้น คุณจะไม่ต้องมานั่งบ่นอึดอัด แน่นท้อง ปวดท้อง หลังจากมื้อกลางวัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานอีกต่อไป

 


3.ฟังอย่างตั้งใจ 

หลายครั้งที่การสนทนาของคุณ ไม่ได้ตั้งใจฟังสิ่งที่ผู้พูดจะสื่อสารอย่างจริงจัง เพราะในสมองของคุณอาจเต็มไปด้วย อีเมล์ที่ต้องเช็ค การโทรหาลูกค้าคนต่อไป ซึ่งส่งผลเสียแน่ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นในการประชุม หรือในการคุยงานกับลูกค้า ให้คุณโฟกัสกับการฟังมากขึ้น ฟังอย่างตั้งใจ โฟกัสที่ผู้พูด ลืมเรื่องอื่นไปก่อนชั่วขณะ  จะทำให้การสนทนามีบรรยากาศดีขึ้น และทำให้คุณมีสติในการฟังมากขึ้น  



4.การเบรก 

การหยุดพักจากงานสักครู่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความคิดสร้างสรรค์ จอห์นพี. ทรูโกโกส ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการจัดการที่มหาวิทยาลัยโตรอนโต กล่าวว่าจิตนั้นคล้ายกับกล้ามเนื้อ มันเหนื่อยล้าได้หลังจากใช้งานอย่างต่อเนื่อง และต้องการเวลาพักเพื่อที่จะฟื้นตัวได้ มากพอๆ กับที่นักกีฬายกน้ำหนักต้องการพักผ่อนก่อนจะยกซ้ำรอบที่สองเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นถ้ารู้สึกว่าคิดอะไรไม่ออก ลองลุกจากโต๊ะทำงานไปเดินข้างนอกหรือทำอะไรอย่างอื่นสักพัก แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ




5. เริ่มกิจวัตรที่ดีในตอนเช้า 

การสร้างกิจวัตรตอนเช้าที่มีความหมาย เป็นหนทางที่ดีในการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดและปราศจากความเครียด หากคุณต้องการลุกจากเตียงอย่างมีความสุขมากขึ้น ลองปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตที่ทำให้ช่วงเช้าไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เช่น ไม่เลื่อนนาฬิกาปลุก เตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อนนอน ตื่นเช้าขึ้นจะได้ไม่ต้องเร่งรีบ, ทำสิ่งพิเศษๆ เลือกกิจกรรมยามเช้าที่ชอบ เช่น วิ่งจ๊อกกิ้งโยคะ เต้นเบาๆ , คิดเกี่ยวกับเป้าหมายในชีวิต สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นวันใหม่ได้ดีขึ้น


การทำงานย่อมเกิดความสับสนวุ่นวายเป็นเรื่องปกติ แต่เราก็ยังคงต้องผ่านไปให้ได้ตลอดทั้งวัยและทุกวันเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เพราะฉะนั้นจงฝึกฝนให้ตัวเองมีสติอยู่ตลอดเวลา โฟกัสกับสิ่งที่ทำให้มากขึ้น จะทำให้การทำงานราบรื่นกว่าที่เคยเป็น  



คุยกันต่อได้ที่
BLOG : PERFECT WORKING SOLUTION
กรอกข้อมูลเพื่อรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ กับ PERFECT WORKING SOLUTION ได้ที่นี่ คลิ